หัวใจในการเปิดร้านขายของ ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้าปลีก ร้านขายของเฉพาะทาง ร้านขายของชำ หรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป คือการมีแบบร้านค้าที่จะสามารถดึงดูดลูกค้าและสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้แก่ร้านค้าของคุณได้
การสร้างความประทับใจให้ลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการขายสินค้าและการคงกิจการของร้านให้ดำเนินต่อไปได้ ดังนั้น ใครที่อยากจะเปิดร้านค้าในแบบที่จะช่วยเพิ่มเสน่ห์และรายได้จากการขาย ควรเริ่มที่การตกแต่งร้าน
ในบทความนี้ เราจะพูดถึงไอเดียแบบร้านค้าต่าง ๆ พร้อมตัวอย่างร้านขายของ
ร้านขายของชำเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะโตมากับการเห็นร้านขายของชำแถวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ร้านขายของชำจะมีขนาดเล็กแต่เต็มไปด้วยสินค้าที่หลากหลาย เช่น เครื่องดื่ม ของเล่น ขนม และสิ่งของจิปาถะ
การออกแบบที่ดีหรือการรีโนเวทร้านขายของชำใหม่สามารถทำได้ด้วยการเปลี่ยนผังชั้นวางสินค้า จัดระเบียบและเรียงสินค้าตามขนาด สี หรือชนิดของสินค้าตามใจชอบ เคลียร์พื้นที่ภายในร้านให้มีพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นและสะดวกในการเดิน หรือใช้บริการบริษัทออกแบบตกแต่งภายในสำหรับการปูผังร้านใหม่
สำหรับคนที่ต้องการคงความเป็นเอกลักษณ์ของร้านขายของชำ ซึ่งก็คือกลิ่นอายความเก่าหรือความวินเทจของร้าน คุณสามารถตกแต่งร้านด้วยของตกแต่งที่สื่อถึงตัวตนร้านของคุณ ตกแต่งหน้าร้านด้วยการใช้วัสดุธรรมชาติที่สามารถนำมาประยุกต์ได้ หรือสิ่งของเก่าที่ให้ความเป็นตัวเองกับร้าน เหมาะกับร้านขายชำที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว เพราะแบบร้านขายของชำแบบนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายของร้านค้าจากความเป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากนักท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ล้วนชื่นชอบและมองหาความ authentic ของร้านค้าต่าง ๆ
ไอเดียทางเข้าร้านขายของชำที่ดีควรจะมีการออกแบบประตูหรือรีโนเวทหน้าบ้านให้มีความดึงดูดลูกค้า การติดตั้งหน้าต่างบานใหญ่จะสามารถทำให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าภายในร้านได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้ร้านดูกว้างและสะอาดมากขึ้นอีกด้วย
ประดับหน้าร้านหรือหน้าบ้านด้วยต้นไม้ใบเขียวเพื่อให้ร้านมีบรรยากาศที่สดชื่น และการติดป้ายหน้าร้านไม่ว่าจะเป็นป้ายร้านขายของชำหรือป้ายโฆษณาก็จะช่วยสร้างความมีตัวตนของร้านและเพิ่มความน่าสนใจให้กับร้าน
แบบหน้าร้าน
แบบร้านขายของชำสไตล์โมเดิร์นจะมีการตกแต่งร้านที่ใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัย มีการเล่นไฟหรือใช้หลอดไฟ LED สีขาวหรือโทนสีอ่อนเพื่อให้แสงสว่างในร้านดูมีความรู้สึกหรูหราแต่เรียบง่าย
ชั้นวางสินค้าก็แบ่งแยกประเภทสินค้านั้น ๆ ไม่ว่าจะตามสี ชนิดสินค้า หรือสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดสูง ซึ่งควรจะอยู่ด้านหน้าหรือบนชั้นวางสินค้าที่มองเห็นได้
การทาสีร้านขายของชำแบบโมเดิร์นคือการใช้สีพื้น เช่น สีขาว สีเทา หรือสีธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้ร้านขายของชำของคุณดูมีความทันสมัย หรูหรา และอาจจะทำให้สินค้าขายดีขึ้นได้ เพราะหากร้านสวยและน่าเข้า ลูกค้าส่วนใหญ่จะกลับมาใช้บริการอีกครั้ง
แบบร้านขายของชำ
แบบร้านขายของชำสไตล์โมเดิร์นมินิมอลเป็นไอเดียร้านขายของชำที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน โดยโทนสีของร้านโดยรวมแล้วจะเป็นโทนสีขาวหรือสีธรรมชาติ ซึ่งจะสามารถเพิ่มความสว่างและความกว้างให้กับพื้นที่ร้านของคุณได้
ไอเดียการตกแต่งร้านขายของชำแบบมินิมอลนั้นจะเน้นความเป็นระเบียบและการจัดสิ่งต่าง ๆ ภายในร้านให้มีพื้นที่ในการเดินมากที่สุด
การใช้ชั้นวางสินค้าที่สามารถเก็บสินค้าได้เยอะเป็นสิ่งที่แนะนำ และแน่นอนว่าโทนสีของเฟอร์นิเจอร์และวัสดุที่ใช้ควรจะเป็นโทนสีธรรมชาติ เช่น โต๊ะไม้ เก้าอี้ไม้ ไฟแสงส้ม ต้นไม้ประดับ หรือของตกแต่งร้านเพิ่มเติมที่ทำมาจากธรรมชาติ
ไอเดียเหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้ในการสร้างร้านในอุดุมอคติของตัวเอง เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถเปิดร้านขายของชำที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย มีบรรยากาศเป็นมิตร และเชิญชวนให้ลูกค้าเข้าได้
แบบร้านขายของชำสไตล์มินิมอล
ไอเดียร้านค้าหรือร้านขายสินค้าทั่วไปสามารถตกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ของร้าน ไม่ว่าจะเป็นไอเดียแบบร้านสไตล์โมเดิร์น คอนเทมโพรารี่ มินิมอล หรือแบบวินเทจโลคอล ซึ่งสามารถใช้ในการตกแต่งได้ทั้งร้านขายของชำ ร้านค้าทั่วไป หรือร้านสะดวกซื้อ
การตกแต่งภายในร้านเป็นสิ่งที่สำคัญ การใช้ไฟ ทาสีผนังและสีพื้นที่ดีจะช่วยให้ร้านดูดีและน่าเข้ามากขึ้น คุณสามารถหาสิ่งของตกแต่งที่เหมาะกับธีมของร้าน
แบบร้านสะดวกซื้อที่ดีควรมีการจัดสรรพื้นที่ที่เหมาะสม เช่น การวางตู้แช่ ชั้นวางสินค้า เคาน์เตอร์คิดเงิน และพื้นที่พักต่าง ๆ ในขนาดที่พอดี
ควรวางตู้แช่เครื่องดื่มต่าง ๆ ในจุดที่ลูกค้าสามารถหยิบสินค้าได้สะดวก วางสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมเพื่อเพิ่มยอดขาย แยกโซนสินค้า หากมีพื้นที่เหลือ สามารถทำมุมนั่งพักให้กับลูกค้าได้ การจัดร้านแบบนี้จะช่วยเรียกลูกค้าให้ร้านของคุณแถมยังง่ายต่อการทำความสะอาดอีกด้วย
หวังว่าคุณจะได้ความรู้และไอเดียร้านค้าเพิ่มเติมที่เราแนะนำ สำหรับคนที่ต้องการเปิดร้านค้า อย่าลืมที่จะศึกษาไอเดียและแบบร้านที่ต้องการ สิ่งที่ต้องมีและสิ่งที่ไม่จำเป็นต่าง ๆ เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีร้านที่ดึงดูดลูกค้าและเป็นสถานที่ประกอบธุรกิจที่ก้าวหน้า